5 วิธีแก้ปวดหลัง ทำเองได้-by-Doctor-Healthcare

เพราะลักษณะงานที่ทำ กิจกรรมต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน หรืออายุที่มากขึ้น ล้วนเป็นสาเหตุที่ทำให้เราปวดหลังปวดเอว ปวดเรื้อรังจนเบื่อหน่ายกับการทานยาแก้ปวด วิธีเหล่านี้อาจทำให้อาการปวดบรรเทาลงหรือปวดซ้ำน้อยลงโดยที่ทำได้เองอย่างง่าย

 

แก้ปวดปลัง

1.ประคบร้อนและเย็น

การประคบเย็นจะช่วยลดการอักเสบและการประคบร้อนจะช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดไปยังบริเวณนั้น การประคบสลับกันจึงช่วยลดอาการปวดและการอักเสบได้ โดยเริ่มจากการใช้ผ้าสะอาดห่อน้ำแข็งประคบเย็นนานครั้งละ 20 นาที หลังจากประคบเย็น 2-3 วัน ให้เปลี่ยนเป็นประคบร้อนโดยใช้ผ้าห่อลูกประคบร้อนหรือแผ่นประคบร้อนระดับอุ่น

2.ยืดกล้ามเนื้อ

การออกกำลังกายยืดกล้ามเนื้อหลังส่วนล่างจะช่วยบรรเทาอาการปวดจากการกดทับเส้นประสาท อย่างน้อยควรยืดกล้ามเนื้อนาน 30 วินาที หลีกเลี่ยงรูปแบบการออกกำลังกายที่ส่งผลให้เกิดแรงกระแทก แรงกด หรือมีการบิดตัวขณะยืดกล้ามเนื้อ ท่ายืดกล้ามเนื้อที่ช่วยบรรเทาอาการปวดหลังจากเส้นประสาทถูกกดทับ คือ ท่างอเข่าชิดอก มีวิธีการดังนี้่

  • นอนหงายโดยหลังราบไปกับพื้น ขาเหยียดตรง
  • งอเข่าขวาขึ้นมาทางศีรษะพร้อมหายใจเข้า
  • ใช้มือทั้งสองข้างโอบต้นขาให้ชิดหน้าอกเท่าที่จะทำได้
  • วางขาซ้ายแนบกับพื้น
  • อยู่ในท่านี้นาน 20 วินาที พร้อมหายใจตามปกติ
  • ค่อย ๆ เหยียดขาขวาออกพร้อมกับวางขาขวาบนพื้น สลับเป็นขาซ้ายแล้วทำตามขั้นตอนเดิม ทำซ้ำ 3-5 ครั้

3.หลีกเลี่ยงการนั่งท่าเดิมนาน ๆ

เรามักเผลอนั่งท่าเดิมนาน ๆ เช่น ดูโทรทัศน์ ทำงาน ทำให้ปวดได้ง่ายขึ้นจากหมอนรองกระดูกบวมกดทับเส้นประสาท การขยับร่างกายเป็นระยะจะช่วยลดการกดทับ ทำให้การอักเสบลดลง จึงบรรเทาอาการปวดลงได้ นอกจากจะช่วยลดการปวดแล้วยังช่วยให้เราได้ฝึกท่าทางที่เหมาะสมขณะนั่งอีกด้วย

4.การฝังเข็มและการนวดบำบัด

การฝังเข็มเป็นการแพทย์ศาสตร์จีนโดยใช้เข็มขนาดเล็กปักลงบนจุดต่าง ๆ ของร่างกายที่เชื่อว่าเป็นจุดเปิดการไหลเวียนของพลังงานธรรมชาติ ส่วนการนวดเชื่อว่าลดอาการปวดหลังได้จากการทำให้กล้ามเนื้อผ่อนคลาย เพิ่มการไหลเวียนเลือด และกระตุ้นร่างกาายหลั่งสารแห่งความสุขหรืออะดรีนาลินออกมา

5.อาหารช่วยบรรเทา หลักการคือ

  • ลดการอักเสบ อาหารในปัจจุบันเพิ่มการอักเสบ การอักเสบของร่างกายทำให้เซลล์และหลอดเลือดเสื่อมเร็วขึ้น เกิดภาวะความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดผิดปกติ ข้ออักเสบ ทางเดินอาหารทำงานได้ลดลง การลดอาหารที่เป็นตัวกระตุ้นการอักเสบจะช่วยให้ร่างกายหลีกเลี่ยงจากภาวะเจ็บป่วยได้
  • ปรับสมดุลกรดด่าง ปกติแล้วค่าความเป็นกรดด่างของร่างกายที่เหมาะสมอยู่ที่ประมาณ 7.36 นั่นคือมีแนวโน้มเป็นด่างเล็กน้อย ภาวะกรดจะช่วยเพิ่มการแบ่งตัวของเซลล์มะเร็ง เอื้อต่อการติดเชื้อ กระดูกพรุน น้ำโซดาที่บรรจุขวดขายตามท้องตลาดมีค่าความเป็นกรดอยู่ที่ 2.5 ซึ่งเทียบเท่ากับดื่มน้ำ 30 แก้วเพื่อปรับให้ค่ากลับมาสมดุล อย่างไรก็ตาม ร่างกายมีความสามารถที่จะปรับสิ่งเหล่านี้อยู่แล้ว แต่การดื่มน้ำที่มีความเป็นกรดเช่นนี้อยู่บ่อย ๆ ก็ทำให้การอักเสบของร่างกายเพิ่มขึ้น การหันมาดื่มน้ำผักใบเขียว เช่น ว่านหางจระเข้ จะช่วยเพิ่มความเป็นด่างในร่างกาย
  • ลดการทานหวานหรืออาหารที่มีน้ำตาลสูง สาเหตุสำคัญที่ก่อให้เกิดเบาหวานและน้ำหนักเกิน เกิดจากภาวะดื้ออินซูลิน หรือภาวะที่ร่างกายไม่สามารนำน้ำตาลเข้าสู่เซลล์ไปใช้ได้ จึงมีน้ำตาลในเลือดสูง เมื่อลดอาหารที่มีน้ำตาลสูง จะช่วยลดการอักเสบของร่างกายได้
  • ขับสารพิษ สารพิษมีอยู่รอบตัวเราซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดความไม่สมดุลของฮอร์โมนและการทำงานของภูมิต้านทานผิดปกติ เช่น แพ้อาหาร ไทรอยด์ผิดปกติ ปวดเมื่อตามตัว อ่อนเพลียเรื้อรัง การเชื่อว่าหลังล้างสารพิษจะช่วยให้ความผิดปกตินี้ลดลง
  • เลือกทานอาหารที่มีคุณค่าทางสารอาหาร เมื่อสังคมเร่งรีบ การรับประทานอาหารให้ครบหมู่และถูกสัดส่วนก็ลดลง โรคที่เกิดจากการขาดสารอาหารก็มากขึ้นกว่าสมัยก่อน อาหาร เครื่องดื่ม ขนม ในปัจจุบันมักผ่านกระบวนการแปรรูป ทำให้วิตามินและแร่ธาตุที่มีประโยชน์ถูกทำลายหายไป การเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์จะช่วยลดความเสื่อมของร่างกาย เสริมพลังกายและพลังใจได้

อาหารช่วยบรรเทา ทำได้โดยลดอาหารที่มีไขมันเลวโดยแทนที่ด้วยไขมันดี เลือกทานเนื้อสัตว์ และหันมาทานน้ำตาลไม่ขัดสี จะทำให้เราได้รับไขมันอิ่มตัวลดลง โอเมก้า3เพิ่มขึ้น และน้ำตาลที่กระตุ้นการหลั่งอินซูลินอย่างช้า ๆ แหล่งของอาหารที่ช่วยบรรเทาอาการอักเสบ เช่น กล้วย ส้ม สตอเบอร์รี่ แอปเปิ้ล ผักใบเขียว อัลมอนด์ ธัญพิช น้ำมันปลา ข้าวไม่ขัดสีหรือขัดสีบางส่วน หญ้าหวานและสารให้ความหวานแทนน้ำตาล ไข่ ปลา ไก่ เนื้อวัว มะเขือเทศ ฟักทอง แครอท