เล็บสวย บำรุงเล็บ-by-Doctor_Healthcare

สิ่งหนึ่งที่บ่งบอกความสะอาดและการมีสุขภาพดีได้อย่างเด่นชัด คือ เล็บ ลักษณะของเล็บสุภาพดีควรมีรูปร่างที่โค้งตามเนื้อใต้เล็บ ไม่โก่งงุ้มหรือบุ๋มเป็นแอ่งคล้ายช้อน พื้นผิวเรียบไม่เป็นรอยเส้นนูน สีขาวอมชมพู ไม่มีจุดขาวหรือดอกเล็บ เนื้อเล็บแข็งแรงไม่แตกหักง่าย การบำรุงดูแลเล็บจากภายในทำได้โดยใช้สารอาหาร และเรายังสามารถใส่ใจดูแลจากภายนอกโดยการรักษาความสะอาด ตัดเล็บ และบำรุงผิวและเล็บด้วยครีมเพิ่มความชุ่มชื้นเป็นประจำ

 

ืnail_care_เล็บเปราะ

 

สารอาหารบำรุงเล็บ

เพราะการบำรุงเล็บไม่ใช่เพียงแค่การดื่มน้ำสะอาด 6 แก้วต่อวัน กับการออกกำลังกาย ดังนั้น บางคนยังพบว่าเล็บเปราะ หักง่าย ร่วมกับผิวแห้งเป็นขุย เราจำเป็นต้องทานสารอาหารให้หลากหลายครอบคลุมการเติบโตของเล็บด้วย

  1. เหล็ก

อาหารที่เป็นแหล่งของธาตุเหล็ก คือ เนื้อแดงไม่ติดมัน ผักใบเขียว ถั่ว เมล็ดธัญพืช ในกรณีที่ทานอาหารเสริม ควรเลือกรูปแบบเหล็กคีเลท (chelated iron) ซึ่งร่างกายดูดซึมได้ง่ายกว่ารูปแบบอื่นถึง 3 เท่า

  1. วิตามินบี

วิตามินบีพบได้ในซีเรียล ข้าว พาสตา เนื้อแดง ปลา ถั่ว ไข่

  1. สังกะสี (Zinc)

หอยนางรมอุดมไปด้วยสังกะสีเป็นอย่างมาก อาหารอื่นที่พบสังกะสีได้มาก เช่น อัลมอนด์ ถั่วบราซิล รากขิง ทางเลือกอื่นที่ช่วยให้การรับประทานเหล็กง่ายขึ้น และไม่ต้องกังวลถึงคลอเลสเตอรอลที่ปนมา คือ การทานอาหารเสริมเหล็กโดยเฉพาะเหล็กในรูปคีเลท (chelated zinc) จะถูกดูดซึมง่ายในร่างกาย

  1. กรดไขมันจำเป็น (Essential fatty acids)

โอเมก้า3 และโอเมก้า6 ซึ่งพบได้ในน้ำมันอีฟนิ่งพิมโรส แฟล็กซ์ น้ำมันปลา

นอกจากนั้น วิตามินซี วิตามินเอ และวิตามินอี ยังมีส่วนช่วยในการบำรุงให้เล็บมีสุขภาพดีด้วยเช่นกัน สิ่งที่ต้องปฏิบัติควบคู่กับการเน้นสารอาหาร คือ การดื่มน้ำให้เพียงพอ ออกกำลังกายให้ชีวิตเกิดความสมดุลของการมีสุขภาพดี หากใส่ใจดูแลเล็บได้ตามเบื้องต้นแล้ว แต่ยังพบว่าเล็บผิดปกติ อาจเกิดมาจากโรคภัยที่แอบแฝงอยู่ เช่น ผื่นแพ้ สะเก็ดเงิน เชื้อรา

5 วิธีดูแลเล็บ

  1. ตัดเล็บ เล็บสั้นโค้งตามปลายเล็บจะช่วยลดความเสี่ยงจากเล็บหักหรือฉีกขาด เนื่องจากเล็บงอกช้า โดยปกติ เล็บงอกยาววันละ 3 มิลลิเมตร ในกรณีที่ถอดเล็บ เล็บงอกใหม่จนเป็นปกติใช้เวลานาน 3-6 เดือน ดังนั้น ควรลดความเสี่ยงเล็บหักหรือฉีกขาดโดยการตัดเล็บให้สั้นพอเหมาะ
  2. บำรุงให้ชุ่มชื้น เล็บแห้งมีโอกาสเกิดเล็บเป็นรอยแยกหรือแตกง่ายขึ้น การทาครีม เจล หรือน้ำมันเพื่อบำรุงที่บริเวรโคนเล็บในตอนกลางคืน จะช่วยเก็บกักความชุ่มชื้นและทำให้เล็บแข็งแรง ตัวบำรุงที่ดีควรมีส่วนประกอบของโปรตีนในกลุ่มเคอราตินหรือคอลลาเจน สารกักความชื้น เช่น ปิโตรเลียม ไขมันลาโลิน (lanolin)
  3. หลีกเลี่ยงสารเคมี ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด เช่น น้ำยาล้างจาน สามารถทำให้เล็บเราแห้งเปราะได้ เป็นเรื่องยากที่เราจะไม่ใช้สิ่งเหล่านี้เลย แต่ควรจะพยายามใช้เวลาสัมผัสน้อยสุด
  4. สวมถุงมือ หากว่าเราต้องเจอสารเคมีบ่อย หรือมือเปียกตลอด การสวมถุงมือพลาสติกหรือถุงมือยางเป็นอีกทางเลือกที่ช่วยแก้ปัญหานี้ได้
  5. น้ำยาล้างเล็บ การใช้น้ำยาล้างเล็บทุกสองสัปดาห์เป็นอีกสาเหตุที่ทำให้เล็บเปราะ หากเลี่ยงได้ยาก อย่างน้อยสุดควรเลือกใช้น้ำยาล้างเล็บที่ปราศจากอะซีโตน (acetone)

สีทาเล็บเจลปลอดภัยหรือไม่

ด้วยคุณสมบัติแห้งเร็วและคงทนของสีทาเล็บเจล จึงเป็นที่นิยมมากขึ้นในปัจจุบัน ก่อนจะรู้ว่ามีอันตรายอย่างไร เราจำเป็นต้องรู้หลักการทำงานเบื้องต้นของสีชนิดนี้ก่อน เริ่มต้นด้วยการทำงานของสารลดความชื้นเพื่อเตรียมความพร้อมหน้าเล็บ ตามด้วยการทาสีทับแล้วต่อด้วยตัวเคลือบเล็บอีกโดยประมาณสามชั้นซึ่งต่างกันไปตามน้ำยาเคลือบที่ใช้ แต่ละชั้นของตัวเคลือบจะถูกทำให้แห้งและคงตัวด้วยแสงยูวีหรือแสงอัลตราไวโอเลตนาน 1-3 นาที ส่วน Shellac เป็นตัวเคลือบเล็บอีกชนิดหนึ่งที่มีความหนาของตัวเคลือบมากกว่าทั่วไป รวมประมาณ 6-7 ชั้น

แสงที่ใช้เพื่อทำให้สีเจลแห้งมักเป็นแสงยูวีเอ (UVA) ซึ่งสมาคมผิวหนังอเมริการะบุว่าเกี่ยวข้องกับการเกิดมะเร็งผิวหนังและความเสื่อมเซลล์ก่อนเวลาอันควร พบว่า การได้รับแสงยูวีเอจากเครื่องอบเล็บ 8-14 ครั้ง สะสมในช่วงเวลาสองปี เพิ่มความเสี่ยงการเป็นมะเร็งผิวหนังมากขึ้นกว่าคนทั่วไป

การทาสีเล็บเจลบ่อย ๆ นอกจากจะทำให้เล็บแห้งและเปราะง่ายแล้ว ยังเพิ่มความเสี่ยงการเป็นมะเร็งผิวหนังหรือผิวมือดูเหี่ยว เสื่อมก่อนเวลาได้ด้วย